สิ่งตีพิมพ์ทั้งหมด:
35 241 (+7)

Favorites

แนวโน้มขาลงเริ่มเข้าครอง Bitcoin เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2020

นักลงทุนกว่าครึ่งคิดว่า Bitcoin หุ้น Tesla เป็นฟองสบู่ที่ใหญ่ที่สุด อ้างอิงจากแบบสำรวจของ Deutsche Bank

อดีตกองหน้าของทีมเรอัลมาดริดกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ถูกซื้อด้วย Bitcoin

LetKnow.News

บทความ

การคาดการณ์ของ Cointelegraph สำหรับ CBDC 5 รายการแรกของปี 2021-2022

สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDCs) เป็นส่วนหนึ่งของการอภิปรายที่ก้าวหน้าภายในชุมชนสกุลเงินดิจิทัล CBDC เป็นตัวแทนเสมือนของสกุลเงินดั้งเดิมของประเทศใดประเทศหนึ่ง พวกเขามักใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน (Blockchain) และออกและควบคุมโดยองค์กรการเงินอย่างเป็นทางการของประเทศ คุณลักษณะที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลเช่น Bitcoin และ Ether คือ CBDC ได้รับการสนับสนุนจากเงินฝากของธนาคารกลางในสกุลเงินของประเทศและอยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารกลางในขณะที่ไม่มีคริปโต (Crypto)

สารบัญ

เงินหยวนดิจิทัลของจีน: ผู้บุกเบิกในกลุ่ม CBDC
ยูโรดิจิทัล: โครงการ CBDC ข้ามชาติแห่งแรก
E Krona: CBDC ของสวีเดน
ประเทศไทย: เงินบาทดิจิทัล
ออสเตรเลีย: ดอลลาร์ออสเตรเลียดิจิทัล
พื้นที่ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่ Sand Dollar เป็น CBDC แห่งแรกที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีหลายประเทศที่ดำเนินโครงการ CBDC นำร่อง หรือกำลังมีการอภิปรายเกี่ยวกับการเปิดตัว CBDC Cointelegraph ระบุ CBDC 5 รายการแรกที่สามารถเปิดตัวได้ในปี 2021 และ 2022 ซึ่ง ได้แก่ เงินหยวนดิจิทัลของจีน โครงการยูโรดิจิทัล E-Krona ของสวีเดน สกุลเงินดิจิทัลของไทย และสกุลเงินดิจิทัลของออสเตรเลีย

เงินหยวนดิจิทัลของจีน: ผู้บุกเบิกในกลุ่ม CBDC

เงินหยวนดิจิทัลของจีนมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็น CBDC รายการต่อไปที่จะเปิดตัว และจะเป็นก้าวสำคัญสำหรับการเคลื่อนไหวของ CBDC เมื่อพิจารณาจากขนาดที่เป็นปัญหา ทางธนาคารคารประชาชนจีนได้ดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอย่างจริงจังโดยเริ่มต้นในปี 2014 โดยมีโครงการนำร่องที่ดำเนินการในเมืองจีนมากกว่า 4 เมือง ได้แก่ เซินเจิ้น ซูโจว เฉิงตู และซีอาน มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ การก่อตั้งการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วยสกุลเงินดิจิทัล (DC / EP) CBDC ในอนาคตของประเทศได้รับการสนับสนุนจากเงินฝากหยวนของธนาคารกลาง

จีนคาดว่าจะเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจหลักกลุ่มแรกที่เปิดตัวสกุลเงินอธิปไตยของตน โดยมีหน่วยงานกำกับดูแลที่แนะนำว่าการใช้สกุลเงินดิจิทัลจะช่วยให้จีนสามารถทำให้เงินหยวนเป็นสากล และทำลายการผูกขาดการชำระเงินระหว่างประเทศของดอลลาร์สหรัฐ Cointelegraph ได้พูดคุยในแง่มุมนี้เพิ่มเติมกับ Adrian Huntelar ลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจาก Coinsquare ซึ่งเป็นช่องทางสินทรัพย์ดิจิทัลที่กล่าวว่า

“มันเป็นสกุลเงินดิจิทัลระยะทดลองที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก ในบรรดาประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั่วโลก จีนมีข้อได้เปรียบในการขับเคลื่อนครั้งแรก เนื่องจากการนำร่องที่ประสบความสำเร็จใน 4 เมืองในปี 2020 ยังคงเป็นคำถามที่เปิดกว้างว่าความสำเร็จของเงินหยวนดิจิทัล และอาจยกระดับบทบาทของจีนในฐานะผู้มีบทบาทในการเงินระหว่างประเทศได้หรือไม่ "

เมื่อพิจารณาถึงจำนวนประชากรที่มากขึ้นในประเทศจีน และการเข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือที่สูง เงินหยวนดิจิทัลอาจพิสูจน์ได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของกรณีการใช้งาน และความเป็นไปได้ของ CBDC ทั้งในสถานการณ์ค้าปลีกและค้าส่ง ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนนักทดสอบเงินดิจิทัลหยวนได้ทดสอบธุรกรรมมากกว่า 2 พันล้านหยวน นั่นคือมูลค่าธุรกรรม 300 ล้านดอลลาร์ในธุรกรรมแยกต่างหากกว่าสี่ล้านรายการ แม้ว่าเงินหยวนจะดูเหมือนเป็นสกุลเงินหลักสกุลแรกที่เปิดตัวในรูปแบบดิจิทัล แต่ก็ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้และการใช้งาน แต่ในขณะนี้รัฐบาลจีนยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องนี้

ยูโรดิจิทัล: โครงการ CBDC ข้ามชาติแห่งแรก

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เริ่มตรวจสอบความเป็นไปได้ของเงินยูโรดิจิทัล Christine LaGarde ประธาน ECB กล่าวว่า “เราควรเตรียมพร้อมที่จะออกเงินยูโรดิจิทัลหากมีความจำเป็นเกิดขึ้น” แต่ล้มเหลวในการกำหนดเส้นเวลา หรือรูปแบบเฉพาะที่จะตอบสนอง เนื่องจากลักษณะของสหภาพยุโรป (EU) และเป็นประเทศสมาชิก 27 ประเทศ จึงมีสถาบันระหว่างประเทศและยุโรปจำนวนมากที่จะต้องบรรลุฉันทามติซึ่งจะตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่คาดหวังทั้งหมด ข้อตกลงจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการดำเนินงานของเศรษฐกิจในยุโรป

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2020 ECB ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับเงินยูโรดิจิทัลโดยเน้นถึงเหตุผลในการออกเงินยูโรดิจิทัล ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการออกและการพิจารณาทางกฎหมาย ซึ่งจะต้องนำมาพิจารณา ตามรายงานนี้ Eurosystem จะตัดสินใจภายในกลางปี 2021 ว่าจะเปิดตัวโครงการยูโรดิจิทัลโดยเริ่มจากขั้นตอนการสอบสวนหรือไม่

รายงานชื่อ ‘Report on a Digital Euro’ ระบุว่า วัตถุประสงค์ประการหนึ่งของ CBDC คือการ ‘มีอิทธิพลโดยตรงต่อการบริโภค และการเลือกลงทุนของภาคที่ไม่ใช่ภาคการเงิน’ โดยใช้นโยบายการเงินเพื่อกำหนดอัตราค่าตอบแทนสำหรับสกุลเงินยูโรดิจิทัล

E Krona: CBDC ของสวีเดน

e-krona คือ CBDC ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาที่ Riksbank ธนาคารกลางของสวีเดน สวีเดนเริ่มนำร่องทดสอบ e-krona ในปี 2019 โดยร่วมมือกับ Accenture e-krona มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น CBDC สำหรับร้านค้าปลีก และโครงการนำร่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้ประชาชนทั่วไปเห็นว่าจะสามารถใช้สกุลเงินนี้ได้อย่างไร

หลังจากดำเนินการทดสอบนำร่องจนถึงปี 2019 และ 2020 Riksbank ของสวีเดนกำลังสำรวจความเป็นไปได้ของทั้งประเทศที่เปลี่ยนเป็นสกุลเงินดิจิทัล Bank of International Settlements (BIS) ได้คำนวณย้อนกลับไปในปี 2018 ว่า สวีเดนเป็นสังคมที่ไร้เงินสดมากที่สุดในโลกโดยคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศ การใช้เงินสดของสวีเดนลดลงสู่ระดับต่ำสุดซึ่งน้อยกว่า 10% จากการวิจัยของ Riskbank

การใช้เงินสดที่ต่ำนี้บ่งชี้ว่า พลเมืองส่วนใหญ่ในประเทศคุ้นเคยกับวิธีการชำระเงินแบบดิจิทัลอยู่แล้ว ดังนั้นการเปลี่ยนไปใช้ CBDC ของประเทศจะมีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้นสำหรับคนจำนวนมากด้วยโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมบางอย่าง Per Bolund รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการตลาดการเงินของสวีเดนระบุว่า การทบทวนควรแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2022

ประเทศไทย: เงินบาทดิจิทัล

ธนาคารกลางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นหนึ่งในผู้นำในขบวนการ CBDC และขนานนามโครงการ CBDC ของตนเองว่า "โครงการอินทนนท์" ธปท. ได้ผ่านขั้นตอนที่ 3 ของการนำเงินบาทดิจิทัลไปใช้แล้ว โดยการทดสอบกับหลายบริษัทเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมปีนี้ เมื่อสองปีก่อน ธปท. ถึงกับพิสูจน์แนวคิดของเงินบาทดิจิทัลในฐานะ CBDC ขายส่ง ธนาคารขนาดใหญ่ 8 แห่งเข้าร่วม ได้แก่ HSBC, Standard Chartered, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารธนชาต ในการพิสูจน์แนวคิดนี้ ธปท. และธนาคารที่เข้าร่วมได้ดำเนินการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการคิดเชิงออกแบบพร้อมกับการทดสอบการทำงานเพื่อระบุปัญหา และแนวทางการออกแบบ

พันธมิตรด้านเทคโนโลยีในตอนนั้นคือ R3 ซึ่งเป็นบริษัทบล็อคเชนระดับองค์กรควบคู่ไปกับ Wipro แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศเมื่อเดือนตุลาคมปีนี้ว่า ได้นำบล็อคเชน Ethereum มาใช้โดย ConsenSys ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนา Ethereum เพื่อพัฒนาแนวคิดการพิสูจน์ค่าเงินบาทดิจิทัลในรูปแบบ CBDC สำหรับค้าปลีก สิ่งนี้อาจนำไปสู่ความท้าทายเล็กน้อยสำหรับนักลงทุนรายย่อย เมื่อพิจารณาถึงค่าธรรมเนียมก๊าซที่สูงในเครือข่าย Ethereum ทาง ConsenSys เปิดเผยว่า เงินบาทดิจิทัลจะออกผ่านสัญญาอัจฉริยะ ERC-20 ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับ Ethereum สิ่งนี้ทำให้ ธปท. มีโอกาสพิจารณากรณีการใช้การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) สำหรับเงินบาทดิจิทัลของตน

แนวทางเชิงรุกที่ ธปท. นำไปสู่การพัฒนา CBDC ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในผู้นำของขบวนการ CBDC

ออสเตรเลีย: ดอลลาร์ออสเตรเลียดิจิทัล

ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกในการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้โดยทั่วไป แม้ว่าจะไม่มีข้อบ่งชี้ว่าธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีแผนที่จะเปิดตัว CBDC สำหรับร้านค้าปลีก แต่ในเดือนพฤศจิกายนพวกเขาได้เปิดตัวความร่วมมือกับ Commonwealth Bank, National Australia Bank, Perpetual และ ConsenSys เพื่อค้นคว้าความเป็นไปได้สำหรับ CBDC แบบขายส่งโดยใช้ เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (DLT)

โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2020 และทั้งสองฝ่ายตั้งใจที่จะเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับโครงการและผลการวิจัยหลักในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 ซึ่งอาจตามมาด้วยการเปิดตัวเต็มรูปแบบภายในสองสามปีข้างหน้าสำหรับ สถาบันการเงินเพื่อใช้พิจารณาว่าประเทศปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีบล็อกคเชนอย่างไร Trepanier จาก Apifiny สนับสนุนสมมติฐานนี้โดยกล่าวว่า

“ออสเตรเลียมักจะเข้ามาทำตลาดเป็นอันดับแรก เนื่องจากประเทศนี้มีความก้าวหน้าในด้านบล็อคเชนมาเป็นเวลานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบริษัท และธนาคารชื่อดังอย่าง Blythe Masters Digital Asset Holdings”

พื้นที่ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว

ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังคงพูดถึงการทดสอบและเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง ประเทศเช่นสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมนีกำลังมีการสนทนาภายในเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติของสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่ทำการทดสอบนำร่องสำหรับ CBDC ของตนเอง เมื่อพิจารณาถึงอิทธิพลของรัฐบาลที่ทำงานเกี่ยวกับ CBDC แล้ว การแปลงสกุลเงินเป็นดิจิทัลได้รับการตั้งค่าให้เพิ่มขึ้นทำให้อุตสาหกรรมคริปโตโดยรวม

ที่มา

Cointelegraph

ผู้เขียน

Sergio

แสดงความคิดเห็น:

#คริปโตเคอเรนซี่ (CRYPTOCURRENCY)

#คริปโต (CRYPTO)

#บลอ็คเชน

#ข่าวคริปโต

#ข่าวคริโตเคอเรนซี

เลื่อนลง

ข่าวสารล่าสุด

จำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นซื้อ ETH แต่มีเพียงกลุ่มกองทุน VC และสำนักงานครอบครัวที่เลือกเท่านั้นที่ลงทุนใน DeFi รายงานโดย Coinbase

Bitcoin กำลังได้รับ "การบีบอัด" ระหว่าง 2 ระดับที่สำคัญ ความผันผวนของตลาดกำลังใกล้เข้ามา

นี่คือวิธีที่ Bitcoin สามารถไปถึง 1 ล้านดอลลาร์ได้ ตามที่ Anthony Pompliano ของ Morgan Creek Digital กล่าว

Bitcoin เข้าสู่ระยะการรวมตัว ในขณะที่นักวิเคราะห์กำลังจับตาดูคริปโตที่สำคัญนี้

JP Morgan เสนอเหตุผลสามประการที่นักลงทุนควรพิจารณา Bitcoin แม้จะมีลักษณะที่ไม่เป็นทางการและมีความผันผวนสูง

แนวโน้มขาลงเริ่มเข้าครอง Bitcoin เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2020

อะไรสามารถทำให้สถานการณ์ขาลงระยะสั้นของ Bitcoin ถูกทำลายได้?

ผู้เชี่ยวชาญด้าน Altcoin กล่าวว่า จงซื้อคริปโตที่ยังคงอยู่ได้ในระหว่างการตกลงของราคา Bitcoin

Bitcoin ลดลงครั้งใหญ่ที่ 10% ในขณะที่ Altcoin มีการรวมตัว นักวิเคราะห์กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้อย่างไร

ข่าวทั้งหมด

ประกาศสัมภาษณ์

Adam Back กับอีเมลล์ของ Satoshi, ข้อกังวลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล และ Bitcoin ยุคแรก ๆ

Audo Kowiz กับความคิดที่ว่าแพลตฟอร์ม Single chain เปรียบเสมือนการให้เช่าห้องบนตึกระฟ้าอยู่แทนที่จะเอาเงินไปสร้างบ้านของตนเอง

Vincent Poon ชี้ว่า สกุลเงินทั่วไปจะถูกแทนด้วยสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซี

VIEW ALL

ขึ้น